ภาษาเขมรเป็นภาษาทางการ ส่วนภาษาที่ใช้โดยทั่วไป ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเวียดนาม ภาษาไทย และภาษาจีน
ที่ตั้งอยู่กลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทิศเหนือติดกับประเทศไทย และลาว ทิศตะวันออกติดเวียดนาม ทิศตะวันตกติดประเทศไทย และทิศใต้ติดอ่าวไทย
เมืองหลวงคือ กรุงพนมเปญ
วัฒนธรรมกัมพูชาที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติมีพื้นฐานมาจากศาสนาทั้งศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู กัมพูชาได้รับอิทธิพลจากอินเดียทั้งทางด้านภาษาและศิลปะผ่านทางแผ่นดินใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งจากการค้าทางทะเลทางไกลกับอินเดียและจีนจนเกิดอาณาจักรฟูนันขึ้นเป็นครั้งแรก
อาหาร
อาหารกัมพูชามีความคล้ายคลึงกับเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะอาหารไทย อาหารเวียดนามและอาหารจีนแต้จิ๋ว อาหารกัมพูชาใช้น้ำปลาเป็นเครื่องปรุงรสสำคัญ มีการปรุงอาหารด้วยการผัดแบบจีน มีแกงใส่กะทิที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารอินเดีย กุยเตียวเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลจากก๋วยเตี๋ยวของจีนและมีบัญเจาเป็นขนมเบื้องญวนแบบกัมพูชา
อาหารกัมพูชามีการใช้ปลาร้าหรือปร็อฮก ในการปรุงอาหาร เพื่อให้มีกลิ่นรสที่เฉพาะหรือใช้กะปิที่ทำจากกุ้ง กะทิเป็เครื่องปรุงหลักในอาหารคาวและอาหารหวานหลายชนิด รับประทานทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียว โดยข้าวเหนียวนิยมใช้ทำขนม เช่น ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน
อาหารกัมพูชามีลักษณะเฉพาะตามพื้นที่ ในกำปอตและแกบ อาหารที่มีชื่อเสียงคือปูพริกกำปอต ในไพลิน หมี่โกลาซึ่งเป็นอาหารของชาวกุลา ชนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่งในกัมพูชาเป็นที่นิยม ทางภาคใต้จะพบอาหารเวียดนามมาก โดยเฉพาะบัญตรัง ซึ่งเป็นอาหารที่นิยมในภาคใต้มากกว่าภาคกลาง อาหารของชาวกัมพูชาเชื้อสายจีนเป็นที่นิยมในเสียมราฐและกำปงธม
ประเพณี
ซัมเปี๊ยะห์ (การทักทายแบบกัมพูชา)
ในวัฒนธรรมเขมรถือว่าศีรษะเป็นของสูง การสัมผัสศีรษะหรือหันเท้าไปทางศีรษะจึงไม่สุภาพ การทักทายจะใช้ “ซัมเปี๊ยะห์”ที่คล้ายการไหว้ของไทย การสบตากับผู้สูงอายุถือว่าไม่สุภาพ
การแต่งกาย
การแต่งกายของชาวกัมพูชาต่างกันไปตามชั้นของสังคม ชาวกัมพูชาพื้นเมืองนิยมใช้ผ้าขาวม้าหรือกร็อมาซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ชาวเขมรต่างไปจากเพื่อนบ้านคือลาว ไทย และเวียดนาม กร็อมานี้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น กันแดด ช่วยในการปีนป่ายใช้ห่อทารก ใช้เป็นผ้าขนหนูหรือใช้นุ่งเป็นโสร่ง หรืออาจทำเป็นตุ๊กตาผ้าสำหรับเด็ก ในสมัยเขมรแดง กร็อมาถือเป็นเครื่องแต่งกายมาตรฐาน
ชุดประจำชาติที่มีความนิยมอย่างยาวนานคือสัมพต เป็นเครื่องแต่งกายที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดียตั้งแต่สมัยอาณาจักรฟูนัน อย่างไรก็ตาม เครื่องแต่งกายของชาวเขมรได้เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาและศาสนา ในช่วงระยะเวลาระหว่างสมัยอาณาจักรฟูนันจนถึงจักรวรรดิเขมรเป็นช่วงที่ศาสนาฮินดูมีอิทธิพลมากต่อการแต่งกาย มีการสวมสัมพตและเครื่องประดับต่างๆ เมื่อชาวเขมรหันมานับถือศาสนาพุทธมากขึ้น ชาวเขมรเริ่มสวมเสื้อและกางเกง ความนิยมต่อเครื่องแต่งกายในแบบสมัยฮินดูลดลง มีเครื่องแต่งกายที่เรียกสไบ
สัมพตยังมีการสวมใส่ในกลุ่มเชื้อพระวงศ์ในสมัยอุดงนิยมสวมสไบปิดบ่าซ้ายและเปิดบ่าขวา นักแสดงแต่งกายด้วยสัมพตสระภาพและเครื่องประดับที่เรียกสเรงกอร์ และยังมีมงกุฏสำหรับเชื้อพระวงศ์เพื่อการตกแต่งตามฐานะ
ศาสนา
ชาวกัมพูชา 90% นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท มี 1% นับถือศาสนาคริสต์ นอกจากนั้นเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามและศาสนาดั้งเดิม ศาสนาพุทธเข้ามาสู่กัมพูชาตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 10 และศาสนาพุทธนิกายเถรวาทได้เป็นศาสนาประจำรัฐตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 18 ยกเว้นสมัยเขมรแดงครองอำนาจ
ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาของชาวจามหรือเขมรมุสลิมและชนกลุ่มน้อยชาวมาเลย์ในกัมพูชา ในช่วง พ.ศ. 2518 มีมุสลิมในกัมพูชาราว 150,000 - 200,000 คน และลดลงหลังจากที่เขมรแดงมีอำนาจในกัมพูชา ชาวจามนับถือทั้งนิกายสุหนี่และชีอะห์ ในกลุ่มชาวจามด้วยกันเองนั้นจะแบ่งเป็นมุสลิมแบบดั้งเดิมและแบบพื้นบ้าน
ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเข้ามาสู่กัมพูชาเมื่อราว พ.ศ. 2203 การเผยแพร่เป็นไปอย่างช้าๆ ใน พ.ศ. 2515 คาดว่ามีผู้นับถือศาสนาคริสต์ในกัมพูชาราว 20,000 คน ส่วนใหญ่เป็นนิกายโรมันคาทอลิก ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2513 ก่อนจะมีการขับไล่ชาวเวียดนาม มีขาวคริสต์ในกัมพูชาที่เป็นชาวเวียดนามประมาณ 50,000 คน แต่หลังจากนั้น ชาวคริสต์ที่เหลืออยู่ในเวียดนามมักมีเชื้อสายยุโรป โดยเฉพาะฝรั่งเศส ในขณะที่การเผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ของมิชชันนารีจากสหรัฐเพิ่มมากขึ้นหลังจากจัดตั้งสาธารณรัฐเขมร โดยเฉพาะการเผยแพร่ในหมู่ชาวเขมรบนและชาวจาม
ชนเผ่าบนที่สูงในกัมพูชามีระบบความเชื่อดั้งเดิมเป็นของตนเอง มีผู้นับถือราว 100,000 คน โดยเป็นการนับถือสิ่งต่างๆในธรรมชาติ ผู้นำศาสนาคือหมอผี โดยในบรรดาชาวเขมรบน ชาวราเดและชาวจรายมีระบบความเชื่อที่พัฒนาดีที่สุด
สถานที่ท่องเที่ยว
1.สีหนุวิลล์ เมืองท่าตากอากาศและท่าเรือน้ำลึกแห่งเดียวของกัมพูชา
สีหนุวิลล์ (Sihanoukville) เป็นจังหวัดเล็กๆทางตอนใต้ของประเทศกัมพูชา และยังเป็นอีกเมืองท่าที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศกัมพูชา โดยแต่เดิมเมืองท่าแห่งนี้รู้จักกันในนาม "เมืองกัมปงโสม" ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกแห่งเดียวของประเทศ และยังเป็นถึงเมืองพักตากอากาศชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของประเทศกัมพูชาอีกด้วยค่ะ
สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวเมืองท่าสีหนุวิลล์ คงอยากจะทราบว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง แน่นอนว่าคุณอาจเริ่มต้นที่ หาดOccheuteal และ หาดSerendipity และหาดอื่นๆอีกมามายหลายหาด ซึ่งคุณจะสนุกสนานไปกับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางบกอย่างการเดินชมหาด และกิจกรรมทางน้ำ อาทิเช่น การดำน้ำ, ตกปลา, พายเรือคายัค และล่องเรือ
2.หาด Ream National Park
ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีเกสท์เฮาส์ กระท่อม หรือบ้านพักต่างๆก็มีไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวมากมาย
นอกจากการเที่ยวชมเมืองท่าแล้ว ไกลออกไปประมาณ 18 กิโลเมตร คุณยังสามารถมาเที่ยว อุทยานแห่งชาติ Ream National Park ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆกับซาฟารี ที่ที่คุณจะได้พบกับความน่ารักของบรรดาสัตว์ป่า กวางมูส, ตัวนิ่ม และปลาโลมาพันธุ์หายากอย่าง ปลาโลมาเผือก ซึ่งจะมีให้เห็นเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์เท่านั้น
ภาษาเขมรเป็นภาษาทางการส่วนภาษาที่ใช้โดยทั่วไป ได้แก่ ภาษาอังกฤษภาษาฝรั่งเศสภาษาเวียดนามภาษาไทยและภาษาจีน
ที่ตั้งอยู่กลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทิศเหนือติดกับประเทศไทยและลาวทิศตะวันออกติดเวียดนามทิศตะวันตกติดประเทศไทยและทิศใต้ ติดอ่าวไทย
เมืองหลวงคือกรุงพนมเปญ
กัมพูชาวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติมีพื้นฐานมาจากศาสนาทั้งศาสนาพุทธและศาสนาฮินดูกัมพูชาได้รับอิทธิพลจากอินเดียทั้งทางด้านภาษาและศิลปะผ่านทางแผ่นดินใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งจากการ ค้าทางทะเลทางไกลกับอินเดียและจีนจนเกิดอาณาจักรฟูนันขึ้นเป็นครั้งแรก
อาหาร
อาหารกัมพูชามีความคล้ายคลึงกับเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะอาหารไทยอาหารเวียดนามและอาหารจีนแต้จิ๋วอาหารกัมพูชาใช้น้ำปลาเป็นเครื่องปรุงรสสำคัญ มีการปรุงอาหารด้วยการผัดแบบจีนมีแกงใส่กะทิที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารอินเดียกุยเตียวเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลจากก๋วยเตี๋ยวของจีนและมีบัญเจาเป็นขนมเบื้องญวนแบบกัมพูชา
อาหารกัมพูชามีการใช้ปลาร้าหรือป ร็อฮกในการปรุงอาหารเพื่อให้มีกลิ่นรสที่เฉพาะหรือใช้กะปิที่ทำจากกุ้งกะทิเป็เครื่องปรุงหลักในอาหารคาวและอาหารหวานหลายชนิดรับประทานทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียวข้าวเหนียวโดยนิยมใช้ทำขนมเช่นข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน
อาหาร กัมพูชามีลักษณะเฉพาะตามพื้นที่ในกำปอตและแกบอาหารที่มีชื่อเสียงคือปูพริกกำปอตในไพลินหมี่โกลาซึ่งเป็นอาหารของชาวกุลาชนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่งในกัมพูชาเป็นที่นิยมทางภาคใต้จะพบอาหารเวียดนามมาก โดยเฉพาะบัญตรังซึ่งเป็นอาหารที่นิยมในภาคใต้มากกว่าภาคกลางอาหารของชาวกัมพูชาเชื้อสายจีนเป็นที่นิยมในเสียมราฐและกำปง ธ ม
ประเพณี
ซัมเปี๊ยะห์ (การทักทายแบบกัมพูชา)
ในวัฒนธรรมเขมรถือว่า ศีรษะเป็นของสูงการสัมผัสศีรษะหรือหันเท้าไปทางศีรษะจึงไม่สุภาพการทักทายจะใช้ "ซัมเปี๊ยะห์" ที่คล้ายการไหว้ของไทยการสบตากับผู้สูงอายุถือว่าไม่สุภาพ
การแต่งกาย
การแต่งกายของชาวกัมพูชาต่างกัน ไปตามชั้นของสังคมชาวกัมพูชาพื้นเมืองนิยมใช้ผ้าขาวม้าหรือกร็อมาซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ชาวเขมรต่างไปจากเพื่อนบ้านคือลาวไทยและเวียดนามกร็อมานี้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายเช่นกันแดดช่วยในการปีนป่าย ใช้ห่อทารกใช้เป็นผ้าขนหนูหรือใช้นุ่งเป็นโสร่งหรืออาจทำเป็นตุ๊กตาผ้าสำหรับเด็กในสมัยเขมรแดงกร็อมาถือเป็นเครื่องแต่งกาย Thyssen
ชุดประจำชาติที่มีความนิยมอย่างยาวนานคือสัมลิฟท์ตเป็นเครื่องแต่ง กายที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดียตั้งแต่สมัยอาณาจักรฟูนันอย่างไรก็ตามเครื่องแต่งกายของชาวเขมรได้เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาและศาสนาในช่วงระยะเวลาระหว่างสมัยอาณาจักรฟูนันจนถึงจักรวรรดิเขมรเป็นช่วงที่ศาสนาฮินดูมีอิทธิพลมากต่อ การแต่งกายมีการสวมสัมลิฟท์ตและเครื่องประดับต่างๆเมื่อชาวเขมรหันมานับถือศาสนาพุทธมากขึ้นชาวเขมรเริ่มสวมเสื้อและกางเกงความนิยมต่อเครื่องแต่งกายในแบบสมัยฮินดูลดลงมีเครื่องแต่งกายที่เรียกสไบ
สั มพตยังมีการสวมใส่ในกลุ่มเชื้อพระวงศ์ในสมัยอุดงนิยมสวมสไบปิดบ่าซ้ายและเปิดบ่าขวานักแสดงแต่งกายด้วยสัมพตสระภาพและเครื่องประดับที่เรียกสเรงกอร์และยังมี มงกุฏสำหรับเชื้อพระวงศ์เพื่อการตกแต่งตามฐานะ
ศาสนา
ชาวกัมพูชา 90% นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาทมี 1% นับถือศาสนาคริสต์นอกจากนั้นเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามและศาสนาดั้งเดิมศาสนาพุทธเข้ามาสู่กัมพูชาตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 10 และศาสนาพุทธนิกายเถรวาทได้เป็นศาสนาประจำรัฐตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 18 ยกเว้นสมัยเขมรแดงครองอำนาจ
ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาของชาวจามหรือเขมรมุสลิมและชนกลุ่มน้อยชาวมาเลย์ในกัมพูชาในช่วง พ.ศ. 2518 มีมุสลิมในกัมพูชาราว 150,000 - 200,000 คนและลดลงหลังจากที่เขมรแดงมีอำนาจในกัมพูชาชาวจามนับถือนิกายสุหนี่ทั้งและชีอะห์ในกลุ่มชาวจามด้วยกันเองนั้นจะแบ่งเป็นมุสลิมแบบดั้งเดิมและแบบพื้นบ้าน
ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเข้า มาสู่กัมพูชาเมื่อราว พ.ศ. 2203 การเผยแพร่เป็นไปอย่างช้าๆใน พ.ศ. 2515 คาดว่ามีผู้นับถือศาสนาคริสต์ในกัมพูชาราว 20,000 คนส่วนใหญ่เป็นนิกายโรมันคาทอลิกในเดือนเมษายน พ.ศ. 2513 ก่อนจะมีการขับไล่ชาวเวียดนามมีขาวคริสต์ในกัมพูชาที่เป็นชาวเวียดนามประมาณ 50,000 คน แต่หลังจากนั้นชาวคริสต์ที่เหลืออยู่ในเวียดนามมักมีเชื้อสายยุโรปโดยเฉพาะฝรั่งเศสในขณะที่การเผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตน ท์ของมิชชันนารีจากสหรัฐเพิ่มมากขึ้นหลังจากจัดตั้งสาธารณรัฐเขมรโดยเฉพาะการเผยแพร่ในหมู่ชาวเขมรบนและชาวจาม
ชนเผ่าบนที่สูงในกัมพูชามีไฟความเชื่อดั้งเดิมเป็นของตนเองมีผู้นับถือราว 100,000 คนโดยเป็นการ นับถือสิ่งต่างๆในธรรมชาติผู้นำศาสนาคือหมอผีโดยในบรรดาชาวเขมรบนชาวราเดและชาวจรายมีไฟความเชื่อที่พัฒนาดีที่สุด
สถานที่ท่องเที่ยว
1. สีหนุวิลล์เมืองท่าตากอากาศและท่าเรือน้ำลึกแห่งเดียวของกัมพูชาสีหนุวิลล์ (สีหนุวิล) เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของประเทศกัมพูชาและยังเป็นอีกเมืองท่าที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศกัมพูชาโดย แต่เดิมเมืองท่าแห่งนี้รู้จักกันในนาม "เมืองกัมปง โสม "ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกแห่งเดียวของประเทศและยังเป็นถึงเมืองพักตากอากาศชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของประเทศกัมพูชาอีกด้วยค่ะสำหรับใครที่อยากไปเที่ยวเมืองท่าสีหนุวิลล์คงอยากจะทราบว่ามีอะไรน่าสนใจ บ้างแน่นอนว่าคุณอาจเริ่มต้นที่หาด Occheuteal และหาด Serendipity และหาดอื่น ๆ อีกมามายหลายหาดซึ่งคุณจะสนุกสนานไปกับกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นทางบกอย่างการเดินชมหาดและกิจกรรมทางน้ำอาทิเช่นการดำ น้ำ, ตกปลาพายเรือคายัคและล่องเรือ2. หาดรีมอุทยานแห่งชาติปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเนื่องจากมีเกสท์เฮาส์กระท่อมหรือบ้านพักต่างๆก็มีไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวมากมายทางบ้านการเที่ยว ชมเมืองท่าแล้วไกลออกไปประมาณ 18 กิโลเมตรคุณยังสามารถมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติรีมอุทยานแห่งชาติซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ กับซาฟารีที่ที่คุณจะได้พบกับความน่ารักของบรรดาสัตว์ป่ากวางมูส, ตัวนิ่มและปลาโลมาพันธุ์หายาก อย่างปลาโลมาเผือกซึ่งจะมีให้เห็นเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์เท่านั้น
การแปล กรุณารอสักครู่..